ประวัติความเป็นมา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ประวัติ
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา: สกอ. (Office of the Higher Education Commission : OHEC) เป็นหนึ่งในห้าองค์กรหลักของ กระทรวงศึกษาธิการ มีคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) ทำหน้าที่ในการดูแลและรับผิดชอบการศึกษา ระดับอุดมศึกษา ตั้งอยู่ 328 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
การศึกษาขั้นอุดมศึกษาของประเทศไทยเริ่มตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งมีทั้งโรงเรียนแพทย์ โรงเรียนกฎหมาย และโรงเรียนสำหรับฝึกหัดวิชาข้าราชการฝ่ายพลเรือน ซึ่งต่อมา ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีการสถาปนามหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย อันได้แก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่งต่อมา แต่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นมานั้น อยู่ภายใต้การปกครองของหลายกระทรวง เช่นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสังกัดกระทรวงศึกษาธิการมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์สังกัดกระทรวงสาธารณสุขและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นต้น ซึ่งทำให้ยากแก่การบริหารจัดการ ดังนั้น เมื่อปี พ.ศ. 2502จึงได้มีการตราพระราชบัญญัติให้มีการโอนมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มาสังกัดสำนักนายกรัฐมนตเพื่อความสะดวกทั้งด้านวิชาการและการบริหารงาน ต่อมา ปี พ.ศ. 2514 สภาการศึกษาแห่งชาติ ร่วมกับ ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัย ได้เสนอต่อจอมพลถนอม กิตติขจร หัวหน้าคณะปฏิวัติว่า มหาวิทยาลัยควรมีอิสระในการปกครองตนเอง มีเสรีภาพทางวิชาการ จึงควรแยกมหาวิทยาลัยให้เป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐบาล หรือตั้งทบวงอิสระในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นต้นสังกัดของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ดังนั้น จึงมีประกาศคณะปฏิวัติ เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2515 ให้สถาปนา "ทบวงมหาวิทยาลัยของรัฐ" ขึ้น โดยมีรัฐมนตรีเป็นผู้กำกับดูแล ซึ่งรัฐมนตรีคนแรก คือ บุญรอด บิณฑสันต์ ซึ่งปี พ.ศ. 2520 ได้มีพระราชบัญญัติเปลี่ยนชื่อ "ทบวงมหาวิทยาลัยของรัฐ" เป็น "ทบวงมหาวิทยาลัย" (อักษรย่อ:ทม) และยกฐานะเป็นทบวงอิสระ ไม่อยู่ในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารงาน ในสมัยการจัดการราชการของทบวงมหาวิทยาลัย ประกอบไปด้วยส่วนราชการดังต่อไปนี้
สัญลักษณ์ประจำสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
เครื่องหมายราชการ สืบเนื่องมาจากทบวงมหาวิทยาลัยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ตราประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว นั่นคือ " พระวชิระ" เป็นตราประจำทบวงมหาวิทยาลัย ซึ่งต่อมาทบวงมหาวิทยาลัยได้เปลี่ยนเป็น "สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา" จึงได้อัญเชิญ "พระวชิระ" มาเป็นตราประจำสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาสืบเนื่องมา
สีประจำสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
สีประจำสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้แก่ สีม่วง-น้ำเงิน โดย
สีม่วง เป็นสีประจำวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าที่ ความรับผิดชอบ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษามีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบในการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการอุดมศึกษาและจัดทำข้อเสนอนโยบายและมาตรฐานการอุดมศึกษา จัดทำแผนพัฒนาการอุดมศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนการศึกษาแห่งชาติและพันธสัญญาที่เป็นไปตามข้อเสนอตกลงระหว่างประเทศ พร้อมทั้งวิเคราะห์ หลักเกณฑ์ และแนวทางการสบัยสนุนทรัพยากร จัดตั้ง จัดสรรงบประมาณอุดหนุนสถาบันอุดมศึกษาและวิทยาลัยชุมชนตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่กำหนด ตลอดจนเสนอแนะการจัดตั้ง ยุบ รวม ปรับปรุงและยกเลิกสถาบันอุดมศึกษาและวิทยาลัยชุมชน นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษายังมีหน้าที่ประสานและส่งเสริมการดำเนินงานพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสักยภาพนักศึกษา รวมทั้งผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ในระบบอุดมศึกษา และการประสาน ส่งเสริมสนับสนุนการวิจัยเพื่อสร้างองคืความรู้ใหม่ และเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศ รวมทั้งพัฒนาระบบและดำเนินการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการจัดการอุดมศึกษา และการรวบรวมข้อมูล จัดทำสารสนทเศด้านการอุดมศึกษา และดำเนินงานฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการการอุดมศึกษาและคณะกรรมการข้าราชการผลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ตลอดจนปฏิบัติงานอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือตามที่กระทรวงหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
โครงสร้างการแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา พ.ศ. 2553
1.สำนักอำนวยการ (สอ.) 2.สำนักนโยบายและแผนการอุดมศึกษา (สนผ.) 3.สำนักบริหารงานวิทยาลัยชุมชน (สวชช.) 4.สำนักประสานและส่งเสริมกิจการอุดมศึกษา (สสอ.) 5.สำนักมาตรฐานและประเมินผลอุดมศึกษา (สมอ.) 6.สำนักยุทธศาสตร์อุดมศึกษาต่างประเทศ (สยต.) 7.สำนักส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพอุดมศึกษา (สพน.) 8.สำนักส่งเสริมและพัฒนาสมรรถนะบุคลากร (สพบ.)
ถูกใจเพจเพื่อรับข้อมูลข่าวสาร แนวข้อสอบ |